Snow White Chaos ภาคพิเศษ
เมื่อโลกชั้นบนที่ยึดมันในพลังแห่งเวทย์มนต์ ถูกการรุกรานจากโลกชั้นล่างที่ยึดมันในวิทยาสตร์และผู้ประสงค์ร้าย ทำให้เหล่าจอมเวทย์พิเศษ Chaos ต้องร่วมตัวและจัดการ อีกทั้งเรื่องราวมากมายที่พวกเขาได้หลงลืม
ผู้เข้าชมรวม
238
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Snow White Chaos
ภาคพิเศษ วัวขี้อายกับบุรุษผู้เดียวดาย
ผมพิเศษเกินไปหรือคนอื่นเขาไม่...เหมือนผมกันแน่?
หยาดน้ำตกลงมาบนใบหน้าของผมที่ละเล็กละน้อยจนเทออกมาราวกับฟ้ารั่ว มันช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและคลาบเลือดที่ผมพึ่งโดนมาไม่อีกนาทีได้ดีทีเดียว หนาวจังผมเริ่มเอากระเป๋าคู่ใจมากอดในอ้อมแขนสิ่งที่ผมรักอย่างเดียวในชีวิต ผู้คนเดินผ่านกันไปมาภายใต้ร่มสีสันสดใสบางคนเดินกันเป็นคู่บ้างก็เดินเป็นกลุ่ม ผมทำได้แค่นั่งมองแล้วอิจฉาในใจขนานหาที่หลบฝนผมยังไม่มีถ้าผมไปเดินอยู่ตรงนั้นได้ก็คงดี อยากพูดคุยกับใครสักคนที่เขารับในตัวตนของผมได้...จะมีมั้ยนะ?
สักพักที่ผมงีบหลับไปหูทั้งสองข้างไม่รู้ว่ามันยังใช้การได้อยู่มั้ยเพราะผมได้ยินเสียงฝนตกลงมาไม่คาดสาย แต่ทำไมร่างกายกลับไม่รับรู้ถึงหยดน้ำเหล่านั้น ดวงตามองไปยังร่มสีแดงที่อยู่บนหัวดีจังเลยนะ เท่านี้ก็ไม่เปียกซะที
แต่เดี๋ยว...ร่มมาจากไหนหล่ะ??
“ เอ๋!? อะ...เอ่อ.... ตะ...ตื่นแล้วหรอ… วีลโก! ” ผมสะดุดเมื่อเห็นหญิงสาวผู้เป็นเจ้าร่มมองมาทางผมผ่านแก้วกรอบสี่เหลี่ยมบนตาเธอทั้งสองข้าง เธอมีเรือนผมสีน้ำตาลสั้น ท่าทางจะขี้อายเล็กน้อยและดูแปลกๆมองไปมาแถมยังเรียกผมว่าวีสโกอีก แต่ดูจากชุดที่ใส่ดูดีต้องเป็นพวกมีเงินแน่ๆทำให้คิดถึงพวกหยิ่งยโสเอาแต่ใช้เงินฟาดหัว เป็นคนจำพวกที่ผมเกลียดจริงๆ
“ คุณทักผิดคนแล้ว...ผมชื่อมาร์ค ไม่ใช่วีลโก ”
“ อีกอย่างไม่ต้องกางร่มให้ผมแล้ว ขอบคุณมาก ” ผมพูดตามมารยาทแล้วทำท่าจะลุกขึ้นเดินหนี แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจความพูดของผมเลยแม้แต่น้อยแถมยังตกไหล่ผมให้นั่งลงจนก้นแฉะนี้มันพลังช้างสารชัดๆ
“ เฮ้ย ~ เอาไงต่อแหละทีนี้ ”
“ ชะ ช่วยอยู่นิ่งสักนิดนึงนะ... ” เธอย่อยตัวลง มือที่เต็มไปด้วยรอยข่วนประทับบนหน้าผากทำเอาผมผงะเล็กน้อย คนตั้งเยอะตั้งแยะมาทำอะไรแบบนี้ไม่อายหรือไง ผมผลักไหล่เธอเต็มกำลังดูเหมือนจะศูนย์เปล่าไม่มีการขยับเขยื้อนเลย หน้าของเธอแดงราวกับลูกมะเขือเทศจะต่างจากผมเท่าไรเพราะหน้าของเราห่างกันไม่อีกเซนติเมตร น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่เหมือนกี้แล้ว เหมือนผมเคยเจอเธอมาก่อนอะไรอย่างนั้น ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเราพึ่งเจอกันไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ
วิ้ง
“ โอ๊ย! ”
“ ปานที่แขน...ใช่!ใช่เธอจริงๆด้วย ”
จู่ๆรอยปานของผมก็มีอาการเจ็บมาซะดื้อๆ ร้อบวันพันปีไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เธอรู้ได้ไงว่าผมมีปานที่แขนทั้งที่ผมซ่อนมันไว้ใต้ผ้าสองชั้นผันอย่างดี อีกอย่างเธอเอามือมาแตะหน้าผากผมมันหมายความว่าไงและที่บอกว่าใช่ๆมันใช่อะไร
“ เฮ้ย! ไอ้ตัวแสบนั่นมันอยู่ตรงนั้นไง ”
ไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไรพวกที่ผมไปมีเรื่องมันเดินมาเจอผมอีกแล้ว เอาไงดี!นี้มันกลางเมืองเลยนะ แถมยังมียัยนี้แต่มันคงไม่ทำอะไรผู้หญิงหรอก ที่สำคัญอยู่ด้วยถ้าเกิดมันเล่นเราเอาตายจะทำไงดี บ้านก็ไม่มี ญาติก็ไม่เคยพบเจอ ใช่ๆต้องหนี แต่หนีไปไหนดีหล่ะที่ๆพวกมันจะไม่ตามมา โอ๊ย!ช่างมันเถอะ หนีๆไปก่อนแล้วกัน Go!!!
“ จะได้ชำระแค้นซะที นังโสโครก!!! ”
ผมวิ่งไปได้ไม่ไกลแต่กลับไม่มีใครตามผมมาเลยสักคน ผมหันกลับไป ชิบ!มันไม่ได้กะจะเล่นงานผม แต่เป้าหมายคือยัยนั้นดีงานนี้ผมรอดตัวยัยนั้นรับบาปไปแล้วกัน จะได้รอดสักที
“ เอ่อ...ระ...เราเคยเจอกัน...ด้วยหรอค่ะ ” เธอพูดตะกุกตะกักท่าจะกลัวสินะ เล่นรุม 7 ต่อ 1 แบบนี้ผมยืนดูสถานการณ์อยู่ข้างนอก อยากจะหนีแต่ทำไมขามันถึงไม่ไปนะ
“ ก็ที่แกต่อยพวกข้าเมื่อกี้ไงเล่า!! ”
เปรี๊ยง!!!!!
“ อะไรกันเนี้ย!? ”
ไอ้สามคนที่วิ่งมาจะต่อยเธอเมื่อครู่กลับถูกสายฟ้าฝาดอยากจัง ผมรู้ว่าตอนฝนตกการมีฟ้าฝ่าเป็นเรื่องปกติแต่มันคงไม่เป็นใจขนานฝาดมาลงที่ไอ้สามตัวแน่ๆ ผู้คนที่อยู่รอบๆวิ่งหนีกระจัดกระจายไปทั่วแต่ผมกลับยังไม่ไปไหนเหมือนโดนมนต์สะกดอะไรสักอย่าง กลุ่มควันโชนขึ้นและเริ่มจางหายไปปรากฏร่างของชายหมุ่นรุ่นน่าจะราวคราวเดียวกับผม เพียงแต่สูงกว่าเล็กน้อยที่ตัวของเขาเหมือนกระแสไฟฟ้าอ่อนรอบตัวจนน่าขนลุก เขาเดินไปยังที่ๆยัยแว่นยืนอยู่เธอไม่มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่นิด
“ กริช...แตงกวามันโยนขี้ให้ฉันอีกแล้ว ”
“ เฮ้ย...หาแต่เรื่องจริงๆพวกเธอเนี่ย ” เขาถอนหายใจ แล้วหันไปยังพวกนักเลงที่เหลืออยู่ตอนนี้แค่สี่คน แต่ละคนตัวสั้นเหมือนเจ้าของก็ไม่ปราน คนตรงกลางที่เป็นหัวหน้าให้ส่งสัญญาณให้ลูกน้องอีกสองคนนั้นอัดคนที่ชื่อ กริช ไม่ทั้งที่จะวิ่งไปหาเพียงแค่เขามองตาขวางใส่พวกมึงก็เพ่นหนีไปร้อยเมตรแล้ว
“ อย่ามาดูถูกข้านะโว้ย!! ”
เปรี๊ยะ
“ คุณเองก็อย่าดูถูกพวกเราสิคะ ” ขาทั้งข้างของไอ้หัวหน้ามีดินเกาะขึ้นจนเกือบมิดหน้ามันตะโกนเสียงร้องเอะอะโวยวายไปทั่ว เธอทำอย่างงั้นได้ยังไงเท่าที่ผมพอรู้คือโลกชั้นบนแห่งนี้เคยเป็นที่อาศัยนักเวทย์มนต์แต่มันน่าจะอยู่ที่เมืองของพวกเลือดผสมแบบนี้สิ พวกเขามาทำอะไรกันแน่
“ พวกเราก็มารับมาร์คไง ” จู่ๆที่ผมไม่ทันตั้งตัว ก็มีมือมาจับไหล่ผมหญิงสาวที่หน้าดูเป็นผู้ใหญ่ ผมสีดำยาวสลวยเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นทำผมตกใจเล็กน้อย สาวแว่นกับคนที่ชื่อกริชหันมายังผม “ แตงกวา ” เธอพูดผ่านไรฟันและดูเหมือนจะโกรธนิดๆ
“ เลิกแปลงร่างเป็นฉันซะทีได้มั้ย!! ”
“ แหมๆ มายด์ฉันว่าเราควรจะสนใจเรื่องของมาร์คก่อนจะดีกว่านะ ” อะไรๆ นี้มันเกิดอะไรขึ้น เรื่องของผม?ผมไปทำอะไรผิดไว้หรอ นี้พวกเขาทำผมงงมากกว่าเดิมแล้วนะ
“ กระเป๋าของนาย มันคือเมจิกไอเทมเคยรู้ตัวมาก่อนมั้ย? ”
“ ชักช้า! พวกฉันได้รับคำสั่งให้มาพาตัวนายไปที่เมจิกทาว ” กริชที่ตอนแรกจะถามผมกับโดนมายด์แทรก ผมงงหนักกว่าปกติซะแล้ว เมจิกทาว?? นั้นมันเมืองของจอมเวทย์นะจะให้ผมไปทำมั้ย
“ บ้าหรือไง! ผมเป็นเลือดผสมนะ จะไปอยู่...” “ แต่มาร์คไม่ใช่เลือดผสมแล้ว ”
แตงกวาขัดจังหวะผม สีหน้าเธอดูเป็นคนจริงจังมากเลยทีเดียว ต่างจากมายด์จะเป็นคนขี้อายและคิดอะไรเป็นเรื่องสนุกส่วนกริชนี้ต้องดูไปก่อน ในขณะเดียวกันดูเหมือนกริชก็มีวงแหวนอะไรบ้างอย่างผุดขึ้นบนพื้นโดยมีกริชและมายด์ยืนอยู่ก่อนแล้ว ส่วนแตงกวาตามไปสมทบอีกที
“ จะไปกับพวกเรามั้ย ”
“ เอ่อ...คือ... ”
“ หมดเวลา!!! ”
กริชถามผมอีกรอบโดยที่ผมไม่ทันจะได้ตอบอะไรเลย มายด์กับแตงกวาก็จับมือผมและลากไปในวงแหวนนั้นผมอึ้งมากและช็อคด้วย คนที่ผมไม่รู้จักเลยสามคนกำลังพาผมไปที่ไหนสักเหตุนึงดูเหมือนเป็นการลับพาตัวแต่ผมกลับยินยอมให้กับพวกเขา แปลกๆตั้งแต่เริ่มต้นแล้วกับความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวพวกเขา...คงจะเหมือนกับครอบครัวละมั้ง
ยินดีต้อนรับ...ผู้เชื่อมต่อราศีกันย์
ติดตามตอนต่อไป(มั้ง?)
ผลงานอื่นๆ ของ mind_27 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ mind_27
ความคิดเห็น